โตมากับเกมของ Nintendo แต่แทบไม่เคยได้ยินชื่อเกม Metroid มาก่อนเลย ตอนเด็กๆก็เล่นแต่ Rockman จนหลายปีก่อน เล่นเกม Hollow Knight แล้วชอบมาก เลยได้รู้จักกับเกมประเภทที่เรียกว่า Metroidvania ซึ่งตั้งชื่อตามเกม Metroid

คิดดูว่า Metroid เป็นเกมตำนานระดับเอามาตั้งชื่อเป็นประเภทนึงของเกมเลย

Metroidvania

นิยามของเกม Metroidvania คร่าวๆคือเป็นเกม action-adventure หรือ platformer ที่ด่านไม่ได้เป็นเส้นตรงแบบจากจุดเริ่มต้นถึงเส้นชัย(แบบ Mario) แต่เป็นแผนที่ใหญ่ๆ ที่ผู้เล่นไปได้แค่บางโซนก่อน แล้วค่อยๆปลดล็อกไปเรื่อยๆ

ผู้เล่นจะเริ่มจากโซนเล็กๆ มีความสามารถ/อาวุธจำกัด แล้วผู้เล่นจะต้องหาทางไปต่อเอง(ก็จะหลงเยอะหน่อย) เปิดโซนใหม่ๆและขยายแผนที่ไปเรื่อยๆ โดยการแก้ปริศนาหรือหาอาวุธ/ความสามารถใหม่ๆ เช่น เก็บชุดกันความร้อนเพื่อเดินผ่านโซนที่เป็นลาวาได้ ปราบบอสเพื่อเอาปืนที่ใช้โหนตะขอข้ามหลุมใหญ่ๆได้ เป็นต้น หลายครั้งคือจะเปิดห้องๆนึง ต้องไปหาของที่ซ่อนอยู่อีกฝั่งนึงของแผนที่ ก็จะเดินผ่านด่านเดิมๆอยู่หลายรอบ แต่ประสบการณ์ของผู้เล่นอาจจะต่างไปในแต่ละรอบ มอนสเตอร์ที่เคยฆ่ายาก อาจจะง่ายขึ้น เพราะผู้เล่นมีอาวุธดีขึ้น เลือดเยอะขึ้น เกมที่ออกแบบดีๆ ตัวผู้เล่นจะพัฒนาไปพร้อมๆกันแบบเนียนมากๆ

นอกจากของที่ต้องเก็บเพื่อไปต่อ ก็จะมีของที่เป็น optional คือไม่ต้องเก็บก็ได้ แต่มีประโยชน์คือเก็บแล้วก็จะเก่งขึ้น หรืออยากจะจบเกมแบบ 100% ก็ต้องเก็บให้หมด

Metroid Universe

พอ Metroid ปล่อยภาคใหม่ชื่อ Metroid Dread ออกมา เลยกลายเป็นเกม Metroid เกมแรกที่ได้เล่น เล่นจบแล้วก็ชอบมากๆๆ ชอบจนเล่นจบ 100% เลย

พบว่า Metroid มีสิ่งตัวเองที่ชอบครบเลยคือ

  • 2D side-scrolling platformer (กระโดดดึ๋งๆแบบ Mario)
  • Exploration (หาของที่ซ่อนไว้)
  • Puzzle (ได้แก้ปัญหา)
  • Sci-fi (เนื้อเรื่องแบบโลกอนาคต)

ที่ชอบอีกอย่างคือ ตัวละครหลักชื่อ Samus Aran เห็นใส่ชุดเกราะ ใส่หมวกอวกาศ กระโดดยิงๆแบบนี้ จะนึกถึง Rockman และมีภาพจำว่าตัวละครแบบนี้ต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ แต่ดันไม่ใช่ ภายในชุดเกราะนั้นเป็นผู้หญิง! และเกมภาคแรกคือปี 1986 รู้สึกว่าคนเขียนบทล้ำดี เขียนให้ตัวเอกแบบนี้เป็นผู้หญิงในยุคสมัยนั้น

ตั้งใจว่าจะหาเกมเก่าๆใน Metroid series มาเล่นเท่าที่จะมีเวลาและมีเครื่องให้เล่น ก็เจอว่า Metroid series มีแยกเป็น 2 ซีรียส์ย่อย คือ

  • Metroid series ปกติ ที่เป็น 2D side-scrolling
  • Metroid Prime series ที่เป็น 3D First-person shooting (FPS)
Metroid Timeline

Metroid Timeline  (@Doeboy)

Metroid Prime Remastered

Metroid Prime Remastered

Metroid Prime Remastered  (Nintendo)

ไม่กี่วันก่อน พึ่งเล่น Metroid Prime Remastered จบไปเป็นเกมที่ 2 ปกติไม่ได้ชอบเกมแนว FPS และเล่นแล้วมักจะเป็น motion sickness ด้วย แต่อยากลองดู

เปิดมาเล่นไปได้ซัก 30 นาที ก็เริ่มเวียนหัว คิดว่าเอาแล้ว คงเล่นต่อไม่ไหว แต่พอปรับ camera sensitivity ให้ช้าลงมากๆ ก็เล่นได้แฮะ และถึงแม้จะเป็น FPS แต่เกมมันไม่ได้ต้องเล็งมาก ใช้วิธีกดปุ่มแล้วมันล็อกเป้าให้เลย เลยพอไหว

Metroid Prime ภาคแรกนี้ เป็นเนื้อเรื่องระหว่าง Metroid ภาคแรก กับ Metroid ภาค 2 ซึ่งยังไม่เคยเล่นทั้งคู่ แต่ไม่ได้มีผลอะไร แต่ความเจ๋งมันคือการเปลี่ยนจาก 2D side-scrolling มาเป็น 3D FPS โดยยังคงลักษณะของเกม Metroid/Metroidvania ไว้ได้อยู่ นี่อาจจะเรียกได้ว่าเป็น 1 ในเกมแนว FPS ไม่กี่เกมของ Nintendo เลยก็ได้ (อีกเกมที่นึกออกคือ Splatoon)

โดยรวมคือ สนุก สมแล้วที่เกมถูกจัดให้เป็น 1 ในเกมยอดเยี่ยมตลอดกาล ชอบแต่ไม่ถึงขึ้นชอบมากเพราะก็ยังไม่ชอบ FPS อยู่ดี ส่วน boss กับ puzzle ที่ใส่มาก็สนุกใช้ได้ เกมมีรายละเอียดเยอะ

อย่างด้านบนนี้ ในเกมเราจะเล่นในมุมมองที่ 1 เหมือนเรากำลังใส่หมวกอยู่ พอยิง missile ใส่กำแพงแล้ว แสงมันสะท้อนหมวก ทำให้เห็นเงาหน้าตัวเองบนกระจกในหมวก ชอบรายละเอียดเล็กๆแบบนี้จริงๆ

ข้อเสียที่เห็นของภาคนี้คือ

  • ระบบแผนที่ดูยากเพราะมันเป็น 3D และทำ marker ไม่ได้ จะลืมตลอดว่าอะไรอยู่ตรงไหน
  • control เปลี่ยนอาวุธยาก ไม่รู้เพราะเป็นการ port มาจาก GameCube รึเปล่า แต่การเปลี่ยนอาวุธยากนี้ ทำเอา boss บางตัวคือยากขึ้นไปอีก เกือบไม่รอด

ระหว่างเล่นลอง google ดูเค้าบอกโดยเฉลี่ยใช้เวลา 13-14 ชั่วโมงในการจบ แต่สุดท้ายใช้ไป 21 ชั่วโมง เสียเวลาเพราะหลงกับดูแผนที่นี่แหละ

ณ ปัจจุบันนี้ Nintendo พึ่งประกาศว่า Metroid Prime 4: Beyond จะออกปี 2025 คิดว่าคงจะหามาเล่นแม้จะไม่ชอบ FPS ดูจากภาพแล้วน่าจะใช้ engine เดียวกับที่ใช้ทำ Metroid Prime Remastered นี่แหละ